สิ่งที่กำลังจะหายไปจากโลกนี้ ความสุขจากหนังสือ

ตกยุคไปแล้วจริงๆหรือสำหรับหนังสือ แต่เราก็ยังคงต้องอ่านกันเป็นประจำทุกวันอยู่แล้วหนังสือหายไปไหน หรือว่าจะถึงกาลอวสานของหนังสือจริงๆ สิ่งพิมพ์ต่างๆ ก็เริ่มที่จะหายไปที่ละน้อยอยู่ในช่วงที่กำลังพิจารณาว่าต่อจากนี้ไปคนจะหันกลับมาอ่านหนังสือกันอีกหรือเปล่า แต่ก็ยังคงมีกลุ่มที่รักการอ่านกันอยู่ไม่น้อย จะว่าไปคนกลุ่มนี้ก็มีคนรุ่นใหม่เกิดขึ้นมาอยู่เหมือนกัน แล้วเหตุใดหนังสือถึงเริ่มจะอยู่ในแต่ห้องเก็บของหรือเพียงแค่ไว้สำหรับรองชามก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น

การอ่านจัดเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับชีวิตอย่างมาก เมื่อเราเริ่มที่จะได้เรียนรู้ในสิ่งต่างๆ ก็เริ่มที่จะต้องเรียนหนังสือจำเป็นต้องรู้เรื่องตัวหนังสือให้มากที่สุด หรือว่าหนังสือหนังหมดไปอยู่แค่เด็กระดับประถมกันไปหมดแล้ว สาเหตุนั้นมีหลายอย่างที่จะทำให้หนังสือนั้นหายไป แต่เราลองมาดูข้อดีของหนังสือกันดีกว่าถ้าเราอ่านมากจะให้ประโยชน์อะไรกับเราบ้าง หนังสือนั้นยังคงให้สิ่งที่ดีสำหรับจริงหรือไม่
ข้อดีของหนังสือที่เด็กรุ่นใหม่ลืมไปหมดแล้ว 5 ข้อ
1.ให้ความรู้
เด็กๆ อาจจะเริ่มมีคำถามว่า เราสามารถหาความรู้จากอินเตอร์เน็ตก็ได้ แต่รู้หรือไม่ว่าโลกออนไลน์นั้นมีทั้งเรื่องจริงและไม่จริง แต่สำหรับหนังสือนั้น ต้องเป็นเรื่องจริงทั้งหมด กว่าจะตีพิมพ์ออกมาได้ ก็ต้องผ่านการกลั่นกรองออกมาเป็นเรื่องที่ให้ความรู้อย่างแท้จริง และเป็นเรื่องที่ต้องผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่า ข้อความเหล่านี้ต้องมีประโยชน์สำหรับผู้อ่านอย่างแท้จริงต้องไม่มีเรื่องสมมุติเกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะนั้นจะสื่อความหมายผิดพลาดแล้วก็นำพาไปสู่การเข้าใจผิดในที่สุด
2.ฝึกภาษา
รู้หรือไม่ คำง่ายๆ อย่าง คำว่า “ค่ะ” หรือ “คะ” คำเหล่านี้เรามักจะใช้ผิดกันในเวลาเขียนอยู่เสมอ เราควรต้องอ่านกันให้มากขึ้นเพื่อทำความเข้าใจสำหรับภาษาได้ดียิ่งขึ้น ภาษาไทยนั้นจัดเป็นภาษาพื้นฐานของเรา เราจำเป็นต้องฝึกภาษาให้ดีและแม่นยำอยู่เสมอ ต้องสะกดให้ถูกต้อง ยิ่งเด็กรุ่นใหม่ตอนนี้ได้ใช้ภาษาที่เพี้ยนออกไปจนเริ่มลืมความเป็นจริงว่าคำเหล่านั้นสะกดกันแบบไหน แล้วพอทิ้งไว้ไม่สนใจในที่สุดพอจะต้องใช้งานจากภาษาเหล่านั้นจริงก็จะไม่สามารถใช้งานได้
3.ฝึกการออกเสียง
เมื่อเราสามารถอ่านออกเขียนได้แล้ว ภาษาไทยนั้นมีการผันเสียงวรรณยุกต์หลายเสียง เราจำเป็นหัดออกเสียงให้ถูกต้องด้วย เพราะแค่เสียงเพียนเพียงเล็กน้อย เราก็จะแปลความหมายผิดได้ทันที
5.เป็นการฝึกสมาธิ
เมื่อเราได้ทำการอ่านอย่างเข้าใจ และเมื่อเราได้ตั้งใจอ่านเนื้อความต่างๆ ก็จะมีการฝึกสมาธิที่ดียิ่งขึ้น การอ่านจัดเป็นการฝึกสมาธิที่ดีที่สุด เมื่อใจเราจดจ่อกับการอ่านอย่างเต็มที่แล้ว เราจะมีความคิดในการอ่านครั้งนั้นไปด้วย ยกตัวอย่าง เมื่อหลายปีก่อน หนังสือที่ขายดีระดับโลก ที่ไม่ได้เน้นรูป อย่างหนังสือ แฮร์รี่พ็อตเตอร์ จัดว่าเป็นหนังสือที่อ่านแล้วทำให้เกิดจินตนาการตามมาอย่างสนุก ไม่นานเกินรอ เมื่อมีกระแสจากหนังสือก็มีผู้สร้างได้ตัดสินทำเป็นภาพยนตร์ออกมา ซึ่งไม่แปลกเลย จากตัวหนังสือที่นำมาต่อร้อยเรียงกัน ก็กลายเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้แบบไม่มีที่สิ้นสุด ถึงแม้ว่าทุกวันนี้แฮร์รี่พ็อตเตอร์จะไม่ได้สร้างภาพยนตร์ภาคใหม่ออกมา แต่ก็เชื่อได้ว่าหนังสือก็ยังคงให้ความสนุกทุกตัวอักษรได้เป็นอย่างดี
5.เปิดจินตนาการใหม่แบบไม่รู้จบ
การอ่านหนังสือจัดว่าเป็นการเปิดโลกใบใหม่ได้เป็นอย่างดี จะว่าไปแล้วสร้างแรงบันดาลใจได้มากกว่าการดูหนัง ดูละครเสียอีก เพราะในจังหวะที่เราต้องจดจ่อกับตัวหนังสือนั้น เราก็จะรวมสมาธิทุกอย่างไปอยู่ที่หน้ากระดาษตรงหน้านั้น บางครั้งถ้าเราอ่านหนังสือการ์ตูน หรืออ่านละคร ที่กำลังได้อรรถรสเราก็อยากจะรู้ว่าตอนต่อไปเป็นอย่างไร จะข้ามไปอ่านตอนจบเลยก็ไม่รู้ว่าเนื้อเรื่องนั้นเป็นแบบไหน จำต้องอ่านทุกตัวอักษรเพื่อให้เข้าใจถึงเนื้อเรื่องและจินตนาการภาพตามไปกับตัวหนังสือเล็กๆเหล่านั้น
นี่เป็นเพียงแค่ตัวอย่างเพียงเล็กน้อยสำหรับข้อดีของหนังสือในเนื้อความจริงแล้ว เมื่อเราได้ลองอ่านหนังสือสักเล่มที่น่าสนใจ ถ้าเราได้สนใจเรื่องไหนแล้วได้อ่านอย่างตั้งใจเชื่อได้เลยว่า ความรู้ทุกตัวอักษรจะซึมเข้าสู่สมอง ร่างกาย และหัวใจได้อย่างไม่น่าเชื่อ เราจะจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้เป็นอย่างดี
อย่าปล่อยให้หนังสือต้องจางหายไปจากโลกใบนี้ เคยมีคำกล่าวไว้ว่า หนังสือจะไม่มีวันเก่าถ้าเมื่อไหร่เรายังไม่เคยได้อ่านมัน ก็เป็นจริงอย่างที่ว่ากันจริงๆ นักอ่านหนังสือหลายๆท่าน ก็ชอบที่จะซื้อหนังสือเก็บไว้ก่อน หรือเมื่อมีเวลาว่างก็จะไปเดินหาหนังสือมือสองที่เรายังไม่เคยได้อ่านก็สะสมไว้ เมื่อไหร่ที่มีเวลาว่างต้องการผ่อนคลายจากอาการเหนื่อยล้า เราก็สามารถนำหนังสือเหล่านั้นออกมาช่วยให้ความสุขความสบายกับเราได้ตลอดเวลา บางครั้งหนังสือบางเล่ม เราก็ยังคงกลับไปอ่านกี่ครั้งก็ยังไม่เบื่อ มันน่าแปลกมากที่ตัวหนังสือเหล่านี้จะยิ้มตอนรับกับคนที่อ่านเสมอ บางครั้งหนังสือหนึ่งเล่มก็สอนอะไรให้กับเราได้มากกว่าการต้องไปศึกษาเรียนรู้ เป็นแรมเดือน ลองเริ่มกลับมาอ่านหนังสือกันใหม่อีกสักครั้ง เริ่มจากหนังสือที่เราคิดถึง หนังสือที่เราชอบ แล้วเราจะได้ย้อนนึกถึงวันเก่าๆ ที่เรามีความสุขกับการอ่านกัน วางเครื่องมือสื่อสารกับคนรอบข้างสักนิดแล้วมาใส่ใจกับเรื่องเก่าๆ ดูแล้วจะพบกับความจริงที่ถูกซ่อนอยู่